วันพุธที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2560

การออกแบบและพัฒนารูปแบบ

ตารางการเปรียบเทียบการสอน

 รูปแบบการสอน ขั้นที่ 1 ขั้นที่ 2 ขั้นที่ 3
 Constructionism 1. Explore    การสำรวจตรวจค้น
คือขั้นตอนนี้บุคคลจะเริ่มสำรวจตรวจค้นหรือพยายามทำความเข้าใจกับสิ่งใหม่ (assimilation) ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อได้พบหรือ ปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆที่ไม่มีอยู่ในสมองของตน ก็จะพยายามรับหรือดูดซึมเก็บเข้าไปเป็นความรู้ใหม่
 2. Experiment   
การทดลอง คือขั้นตอนนี้จะเป็นการทดลองทำภายหลังจากที่มีการสำรวจไปแล้วเป็นการปรับความแตกต่างระหว่างของใหม่กับของเดิมจนเกิดความเข้าใจว่าควรจะทำอย่างไรกับสิ่งใหม่นี้ต่อไป
 3. Learning by doing การเรียนรู้จากการกระทำ คือการลงมือปฏิบัติแล้วสร้างองค์ความรู้ใหม่เป็นองค์ความรู้ของตนเอง ขั้นตอนนี้จะเป็นการผสมผสานระหว่างการรับหรือดูดซึม และการปรับความแตกต่าง
 Biggs 3P Model 1. ครูนำ เสนอบทเรียนในขั้นนำ เสนอ(P1 = Presentation)โดยนำ เสนอเป็นรูปประโยคที่ใช้ในการสื่อสาร (Whole Language) ไม่แยกสอนเป็นคำ ๆ นักเรียนจะเข้าใจภาษานั้นโดยภาพรวม หลีกเลี่ยงการแปลคำ ต่อคำ การนำ เสนอต้องชัดเจน และตรวจสอบจนแน่ใจว่านักเรียนเข้าใจสิ่งที่ครูนำ เสนอนั้น 2. ครูใช้กิจกรรมในขั้นฝึก (P2=Practice) อย่างหลากหลาย โดยยึดนักเรียนเป็นศูนย์กลาง  ฝึกหัดและพูดในกลุ่มใหญ่ก่อน ฝึกกลุ่มโดยใช้การฝึกลูกโซ่  ฝึกคู่เปลี่ยนกันถามตอบ และก็ฝึกเดี่ยวโดยพูดกับครูทีละคน 3. กิจกรรมขั้นนำ เสนอผลงานP3 (Production) เป็นขั้นที่นักเรียนจะนำ ภาษาไปใช้ ครูอาจจะให้ทำ แบบฝึกหัด อ่านและเขียนร้องเพลงหรือเล่นเกม ที่สืบเนื่องและเกี่ยวข้องกับภาษาที่เรียนมาในขั้นที่ 1 และ 2 อาจให้ทำ งานเป็นการบ้านหรือสร้างสรรค์ผลงาน
 Su learning Model 1. ผู้เรียนกำหนดกรอบวัตถุประสงค์การเรียนรู้ของตนเอง ด้วยการระบุ ความรู้และการปฏิบัติโดยระบุความรู้ ในรูปของสารสนเทศหรือdeclarative knowledge และระบุทักษะ การปฏิบัติ(โครงงาน งานภาระงาน) กลยุทธ์ ทักษะ หรือกระบวนการ หรือprocedural knowledge และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 2. ผู้เรียนออกแบบการเรียนรู้ และระบุเกณฑ์คุณภาพวัตถุประสงค์การเรียนรู้เป็นค่าระดับตามโครงสร้างการสังเกตผลการเรียนรู้ (structure of observed learning out-comes:SOLO Taxonomy) กรณีที่วัตถุประสงค์เป็นความรู้ความเข้าใจ จะระบุเป็นการเรียนรู้ร่วมกัน(collaborative learning)หรือการเรียนรู้แบบนำตนเอง(self-directed learning)โดยคำนึงถึงความมีประสิทธิผลและมีประสิทธิภาพ ถ้าผู้เรียนต้องการการเรียนรู้แบบการมีความคิดวิจารณญาณ จำเป็นจะต้องใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือกัน(cooperative learning) มีการอภิปรายเรื่องราวที่เรียนรู้ กลยุทธการเรียนรู้แบบท างานเป็นทีม หรือกลยุทธการเรียนรู้เพื่อการบรรลุวัตถุประสงค์
 DRU  Model 1. P= Planning การวางแผน
  • D = Design การออกแบบและการพัฒนา
  • C = Cognitive network  ความรู้ความกระจ่างชัด
  • A = Affective network    การเรียนรู้จากเพื่อนร่วม วิชาชีพ
 2. C= Cognitive network  ความรู้ความกระจ่างชัด
  • L = Learning การเรียนรู้
  • M = Management  การจัดการ,การควบคุม
  • S = Strategic network  กลวิธี
 3. A = Assessment การประเมินค่า
  • S = Strategic network  กลวิธี
  • A = Affective network  การเรียนรู้จากเพื่อนร่วมวิชาชีพ
  • E = Evaluation  การประเมินผล
การเปรียบเทียบการสอนรูปแบบเก่ากับรูปแบบใหม่

 การสอนรูปแบบเก่า การสอนรูปแบบใหม่ (DRU)
 ขั้นนำ
  • ครูให้นักเรียนทบทวนความรู้เดิม ยกตัวอย่างสิ่งที่อยู่รอบๆตัว
  • ครูใช้คำถามเพื่อให้นักเรียนตอบ
  • ครูมีกิจกรรมก่อนเข้าสู่บทเรียน เช่น ร้องเพลง เต้น หรือใช้เกม
 Planning การวางแผน
  • นักเรียนออกแบบการจัดการเรียนรู้
  • นักเรียนค้นคว้า เรียนรู้จาก PPT,E-Book,ใบความรู้
  • นักเรียนคุยกับเพื่อน กับผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ
 ขั้นสอน
  • ครูให้นักเรียนทำการทดลอง
  • ครูสอนแบบบรรยาย โดยใช้หนังสือหรือ ใช้ Power Point 
  • ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดลงสมุด หนังสือ
 Cognitive network  ความรู้ความกระจ่างชัด
  • นักเรียนเลือกได้ว่าจะเรียนรู้จาก PPT,E-Book หรือใบความรู้
  • นักเรียนเรียนรู้อย่างมีความสุข
  • นักเรียนกำหนดกลวิธีในการเรียนรู้
 ขั้นสรุป
  • ครูให้นักเรียนทำใบงาน
  • ครูให้นักเรียนนำเสนอผลงาน
  • ครูให้นักเรียนสรุปโดยทำแผนผังความคิด
 Assessment การประเมินค่า
  • นักเรียนมีกลวิธีในการเรียนรู้ การแบ่งงาน ทำงานตามความสามารถ
  • นักเรียนประเมินตรวจสอบ หรือทบทวนตัวเอง
  • นักเรียนคุยกับเพื่อน ผู้รู้ และผู้เชี่ยวชาญ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น